คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ดีๆ แล้วเริ่มมีอาการแปลกๆ เช่น เปิดเครื่องช้า โปรแกรมเด้งบ่อย เข้าเว็บไซต์ไม่ได้ หรือแม้แต่มีโฆษณาแปลกๆ โผล่มาไม่รู้จบ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าระบบกำลังถูกไวรัสเล่นงานเข้าให้แล้ว และยิ่งปล่อยไว้นาน ความเสียหายอาจไม่หยุดอยู่แค่ไฟล์หายหรือข้อมูลพัง แต่อาจลุกลามถึงข้อมูลส่วนตัว หรือบัญชีออนไลน์ที่คุณใช้งานประจำก็เป็นได้ หากคุณสงสัยว่าคอมพิวเตอร์ของตัวเองกำลังมีปัญหาแบบนี้ บทความนี้จะพาไปรู้จักวิธีรับมือให้ตรงจุด ปลอดภัย และไม่ต้องรีบพึ่งช่างทันที
สังเกตอาการผิดปกติที่มักเกิดจากไวรัส
ขั้นตอนแรกคือการตรวจสอบว่าเครื่องของคุณมีแนวโน้มจะติดไวรัสจริงหรือไม่ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากอาการเบื้องต้น เช่น
- เครื่องทำงานช้าลงอย่างผิดปกติ
- หน้าเดสก์ท็อปมีไฟล์แปลกๆ ที่ไม่เคยโหลด
- เว็บเบราว์เซอร์เปลี่ยนหน้าแรกเองโดยไม่ได้ตั้งค่า
- มีโฆษณาหรือป๊อปอัปเด้งรัวๆ แม้ไม่ได้เปิดเว็บไซต์
- โปรแกรมบางตัวไม่สามารถใช้งานได้ หรือเด้งปิดเอง
- ระบบเตือน Error ผิดปกติ
หากมีอาการเหล่านี้มากกว่าหนึ่งข้อ ค่อนข้างมั่นใจได้เลยว่าไวรัสอาจเข้าแทรกแซงในระบบของคุณแล้ว
ตัดอินเทอร์เน็ตทันทีเพื่อหยุดการแพร่กระจาย
สิ่งสำคัญที่สุดหลังจากรู้ตัวว่าเครื่องติดไวรัสคือการตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสแพร่ไปยังอุปกรณ์อื่น หรือส่งข้อมูลออกไปยังแฮกเกอร์ ถ้าใช้ Wi-Fi ให้ปิดที่ตัวเราเตอร์ หรือถ้าเสียบสาย LAN ให้ถอดสายออกก่อนทุกครั้ง การตัดเน็ตชั่วคราวยังช่วยลดความเสี่ยงที่มัลแวร์จะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ต้นทางเพื่อดึงคำสั่งหรือไฟล์อันตรายมาเพิ่มเติมด้วย
สแกนไวรัสด้วยโปรแกรมที่เชื่อถือได้
หลังจากแยกเครื่องออกจากเครือข่ายแล้ว ควรสแกนไวรัสทันทีด้วยโปรแกรมที่เชื่อถือได้ เช่น Windows Defender ที่ติดมากับระบบ หรือดาวน์โหลดแอนตี้ไวรัสแบบฟรีหรือพรีเมียมที่มีฟังก์ชันการตรวจจับมัลแวร์โดยเฉพาะ หากไวรัสถูกตรวจพบ ควรให้โปรแกรมทำการลบหรือกักกัน (quarantine) โดยอัตโนมัติ และควรรีสตาร์ตเครื่องอีกครั้งเพื่อให้ระบบทำงานตามปกติ
ล้างไฟล์ชั่วคราวและเคลียร์แคช
แม้ไวรัสจะถูกลบไปแล้ว ก็ไม่ควรมองข้ามการทำความสะอาดระบบหลังการติดเชื้อ เพราะไวรัสหลายตัวอาจทิ้งร่องรอยไว้ในไฟล์แคช หรือโฟลเดอร์ชั่วคราว ดังนั้นจึงควรล้างไฟล์เหล่านี้ให้หมด โดยใช้เครื่องมือในเครื่อง เช่น Disk Cleanup หรือโปรแกรมประเภท Cleaner ที่ช่วยล้างขยะให้หมดจด
สำรองข้อมูลก่อนเผชิญเหตุซ้ำรอบใหม่
เมื่อเครื่องกลับมาใช้งานได้ตามปกติ อย่าลืมสำรองข้อมูลสำคัญไว้ในพื้นที่ปลอดภัย เช่น External Hard Drive หรือ Cloud Storage เพื่อป้องกันความเสียหายซ้ำซ้อนในอนาคต เพราะไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าไวรัสจะไม่กลับมาอีก และในหลายกรณีมัลแวร์บางตัวอาจฝังตัวลึกจนไม่สามารถลบออกได้หมดในครั้งเดียว
ติดตั้งระบบความปลอดภัยให้ครบถ้วน
นอกจากติดแอนตี้ไวรัสแล้ว ควรตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น
- เปิด Windows Firewall
- ปิดระบบ Autorun จาก USB
- อัปเดตระบบและโปรแกรมให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
- หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดโปรแกรมจากเว็บไซต์ไม่รู้จัก
การป้องกันที่รอบคอบจะช่วยลดความเสี่ยง และทำให้คุณไม่ต้องปวดหัวกับการกำจัดไวรัสซ้ำๆ
สรุป คอมพิวเตอร์ติดไวรัสควรทำอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผลจริง
หากคอมพิวเตอร์ของคุณเริ่มแสดงอาการผิดปกติ อย่าเพิกเฉย เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าไวรัสเริ่มเข้ามารบกวนระบบแล้ว การรับมืออย่างทันท่วงที โดยตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สแกนไวรัส ล้างระบบ และวางแผนสำรองข้อมูล จะช่วยให้คุณกลับมาใช้งานเครื่องได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง พร้อมลดโอกาสเกิดปัญหาซ้ำในอนาคต