ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัญหาฝุ่นควันและอากาศเป็นพิษกลายเป็นเรื่องที่คนเมืองหนีไม่พ้น ไม่ว่าจะอยู่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ โตเกียว หรือเดลี ล้วนเผชิญสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่น PM2.5 และมลพิษจากรถยนต์ โรงงาน หรือไฟป่า
แต่ในความอึดอัดของมวลควัน ยังมีแสงสว่างเล็กๆ จากเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อเปลี่ยนอากาศเสียให้กลับมาสะอาดอีกครั้ง และตอนนี้หลายเมืองทั่วโลกก็เริ่มใช้งานจริงแล้ว
เมืองแรกๆ ที่เริ่มใช้เทคโนโลยีลดมลพิษอากาศ
หลายเมืองทั่วโลกหันมาใช้ เทคโนโลยีอากาศสะอาด เพื่อรับมือกับปัญหามลพิษที่เรื้อรังมานาน เช่น
- ปักกิ่ง ประเทศจีน เมืองที่เคยขึ้นชื่อเรื่องหมอกพิษ ตอนนี้ติดตั้ง “หอคอยฟอกอากาศ” ความสูงหลายสิบเมตรที่สามารถกรองฝุ่นละอองจากอากาศได้จริง
- เม็กซิโกซิตี้ ใช้ “ผนังตึกดูดมลพิษ” โดยพ่นเคลือบพิเศษบนอาคาร ซึ่งช่วยดูดซับไนโตรเจนไดออกไซด์และเปลี่ยนเป็นสารที่ไม่เป็นพิษ
- ร็อตเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ ติดตั้งระบบดูดอากาศเสียแล้วปล่อยอากาศบริสุทธิ์กลับมาในที่สาธารณะ โดยเฉพาะบริเวณโรงเรียน
- โตเกียว ญี่ปุ่น ส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนที่ปล่อยไอน้ำแทนควันเสีย พร้อมติดตั้งเซนเซอร์วัดคุณภาพอากาศรอบเมืองแบบเรียลไทม์
เมืองเหล่านี้ไม่ได้แค่ทดลอง แต่เริ่มใช้งานจริง และพบว่า คุณภาพอากาศดีขึ้นอย่างชัดเจน แม้จะยังไม่ถึงขั้นหมดปัญหาแต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญ
เทคโนโลยีแบบไหนที่ช่วยให้อากาศดีขึ้น
นวัตกรรมที่ถูกนำมาใช้เพื่อจัดการกับมลพิษมีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของแต่ละเมือง เช่น
- หอคอยฟอกอากาศ (Smog Tower) ดูดอากาศจากรอบๆ แล้วกรองเอาฝุ่น PM2.5 ออก ก่อนปล่อยอากาศบริสุทธิ์กลับมา
- ผิวตึกที่ดูดซับมลพิษ ด้วยสารเคลือบพิเศษที่ช่วยเปลี่ยนแก๊สพิษให้กลายเป็นสารปลอดภัย
- รถยนต์ไฟฟ้าและไฮโดรเจน ที่ช่วยลดควันเสียจากการจราจร
- ถนนดูดมลพิษ ด้วยวัสดุพิเศษที่สามารถดูดซับฝุ่นและกรองควันเสีย
- เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ในพื้นที่เปิด เช่น สวนสาธารณะหรือลานเมือง
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ใช้แทนกันได้เสมอ แต่เมื่อทำงานร่วมกับนโยบายลดการเผา ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ก็ช่วยทำให้อากาศค่อยๆ ดีขึ้นได้จริง
เทคโนโลยีแก้ฝุ่น ช่วยเราได้แค่ไหน
แม้เทคโนโลยีจะเป็นความหวัง แต่การแก้ปัญหามลพิษอากาศยังต้องพึ่ง “พฤติกรรมของคน” ด้วย เช่น
- ลดการเผาขยะหรือเศษพืช
- ใช้รถสาธารณะหรือรถไฟฟ้ามากขึ้น
- หันมาใช้พลังงานสะอาด
- และร่วมผลักดันให้ภาครัฐใช้นโยบายที่เข้มข้นจริงจัง
สิ่งที่เห็นได้ชัดจากหลายเมืองที่เริ่มใช้เทคโนโลยีคือ ต้องทำควบคู่กันหลายด้าน และต้องมีการสนับสนุนจากทั้งประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชน
ประเทศไทยพร้อมหรือยัง
ในไทยเองเริ่มมีความพยายามหลายด้าน เช่น
- โครงการทดลองฟอกอากาศในพื้นที่จำกัด
- การติดตั้งเครื่องตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5
- การส่งเสริมใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
- แผนลดการเผาในพื้นที่เกษตร
แม้จะยังไม่กว้างขวางเท่าหลายประเทศ แต่ก็นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง เทคโนโลยีอาจเป็นตัวช่วยสำคัญที่พาเราออกจากวงจรอากาศพิษได้ในอนาคตอันใกล้